Cartier เผยโฉมโมเดลเรือนเวลา “Santos de Cartier” ขนาดเล็ก
Author: Kantinan Srisan | Photographer: Courtesy of Cartier
Jun 13, 2025
"...เมื่อเอ่ยถึงชื่อ Cartier หนึ่งในแบรนด์เครื่องประดับและนาฬิกาชั้นสูงจากฝรั่งเศส สิ่งที่สะท้อนกลับมาย่อมไม่ใช่แค่ความงาม หากแต่รวมถึงมรดกทางการออกแบบที่สืบทอดมานานกว่าศตวรรษ และสำหรับปีนี้ Cartier ได้เผยโฉมผลงานชิ้นใหม่ในคอลเลคชั่นอมตะอย่าง Santos de Cartier ที่มาพร้อมสัดส่วนใหม่ในขนาดเล็ก พร้อมกลิ่นอายของประวัติศาสตร์และการรังสรรค์อันพิถีพิถันทุกกระเบียดนิ้ว..."
Santos de Cartier ถือเป็นเรือนเวลาข้อมือเรือนแรกในโลกที่ถือกำเนิดขึ้นในปี 1904 โดย Louis Cartier ได้ออกแบบเรือนเวลานี้ขึ้นเพื่อมอบให้กับนักบินผู้บุกเบิกอย่าง Alberto Santos-Dumont เพื่อให้เขาสามารถดูเวลาได้ขณะอยู่กลางอากาศ ความคิดอันล้ำยุคนี้ส่งผลให้ Santos de Cartier กลายเป็นหนึ่งในนาฬิกาสุดไอคอนิคของโลก นับแต่นั้นมา เส้นสายอันบริสุทธิ์ ขอบเหลี่ยมที่เปี่ยมเอกลักษณ์ และสกรูเปลือยบนกรอบหน้าปัดได้กลายเป็นซิกเนเจอร์ที่ตราตรึงในใจของนักสะสมนาฬิกาทั่วโลก
สำหรับรุ่นขนาดเล็กใหม่นี้ Cartier ยังคงถ่ายทอดจิตวิญญาณเดิมไว้อย่างครบถ้วน ตัวเรือนมาในขนาด 27 มิลลิเมตร x 34.5 มิลลิเมตร สัดส่วนที่ชวนให้นึกถึงความงามแบบคลาสสิคของรุ่นแรกในประวัติศาสตร์ แต่ขณะเดียวกันก็ดูร่วมสมัยและคล่องตัวมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้กลไกควอตซ์คุณภาพสูงที่รังสรรค์ขึ้นให้เหมาะสมกับตัวเรือนขนาดเล็ก หรือหน้าปัดลายซันเรย์ที่เปล่งประกายหรูหราด้วยแสงสะท้อนอ่อนละมุน
ที่น่าสนใจไปกว่านั้น โมเดลใหม่ล่าสุดรุ่นนี้มีให้เลือกถึงสามวัสดุด้วยกัน ได้แก่ ตัวเรือนสตีลล้วน ตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 750/1000 ผสมสตีล และตัวเรือนเยลโลว์โกลด์ 750/1000 ล้วน โดยทุกรุ่นสามารถสลับสายระหว่างสายโลหะและสายหนังได้อย่างอิสระ สำหรับสายหนังของตัวเรือนสตีลใช้วัสดุหนังลูกวัวผิวเรียบ ขณะที่รุ่นทองคำล้วนจับคู่กับสายหนังอัลลิเกเตอร์สุดพรีเมียม มาพร้อมบัคเคิลแบบอาร์ดิญงที่ออกแบบให้แนบเนียนกลมกลืนไปกับตัวเรือนอย่างไร้รอยต่อ
แม้จะมาพร้อมสัดส่วนใหม่ แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือสุนทรียะและหลักการออกแบบอันแม่นยำของ Cartier ที่ยังคงเน้นเส้นสายคมชัด การตัดกันระหว่างพื้นผิวที่ประณีตและความดิบของสกรูเปลือยอันเป็นเอกลักษณ์ กลายเป็นองค์ประกอบที่หล่อหลอมทั้งศิลปะ ความประณีต และกลไกไว้ในเรือนเดียว ผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาอัตโนมัติยังสามารถเลือก Santos de Cartier รุ่นขนาดใหญ่ซึ่งมาพร้อมกลไกขึ้นลานอัตโนมัติ 1847 MC และกันน้ำได้ถึง 10 บาร์ (ราว 100 เมตร) สำหรับรุ่นขนาดเล็กที่เปิดตัวในครั้งนี้สามารถกันน้ำได้ในระดับ 3 บาร์ (ราว 30 เมตร) ตอบโจทย์การใช้งานประจำวันได้อย่างสมบูรณ์แบบ
การกลับมาของ Santos de Cartier ในสัดส่วนใหม่ครั้งนี้จึงไม่ใช่เพียงการเปิดตัวนาฬิกาใหม่ แต่คือบทสะท้อนของประวัติศาสตร์ ความกล้าหาญ และความสง่างามเหนือกาลเวลาที่ Cartier ตั้งใจมอบให้ผู้ที่หลงใหลในงานฝีมือชั้นสูงอย่างแท้จริง
อ่านบทความเพิ่มเติม: TAG Heuer Monaco Chronograph x Gulf: การกลับมาของตำนานแห่งสนามแข่งและจอเงิน